ทะเลาะวิวาทพาดหัวข่าว

วัยรุ่นบางมด ขี่ จยย. พกมีด ไล่แทงคู่อริบาดเจ็บสาหัส ทิ้งปลอกมีดเอาไว้ให้ดูต่างหน้า

วัยรุ่นบางมด ขี่ จยย. พกมีด ไล่แทงคู่อริบาดเจ็บสาหัส ทิ้งปลอกมีดเอาไว้ให้ดูต่างหน้า

วันที่ 7 ตุลาคม 2567
เวลา 22.00 น.

อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันอยู่บริเวณปากซอยพุทธบูชา 18 และในขณะนี้ได้แยกย้ายกันแล้วแต่ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ถูกมีดแทงเข้าที่กลางหลัง มีเลือดออกไหลเยอะมาก จึงรีบรุดจัดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่ออาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุก็พบว่าจุดเกิดเหตุอยู่ภายในซอยพุทธบูชา 18 ถนน พุทธบูชา แขวง บางมด เขต จอมทอง กรุงเทพมหานคร ที่เกิดเหตุเข้าไปภายในซอย 20 เมตร เป็นมุมมืดได้พบกับ นาย เอ ( นามสมมุติ ) อายุ 16 ปี อยู่ในสภาพนั่งอยู่กับพื้นเนื้อตัวชุ่มโชกไปด้วยเลือด หน้าซีด เพราะมีอาการเสียเลือดมาก เพื่อนของ นาย เอ ต้องถอดเสื้อของตัวเขาเองออกมาเพื่อนำมาปิดบาดแผลเอาไว้ก่อน และเมื่ออาสาสมัคร เปิดเสื้อที่ปิดบาดแผลออกก็พบบาดแผลเป็นรูขนาดใหญ่และลึกมาก ลักษณะถูกของมีคมแทงเข้าไปบริเวณดังกล่าว อาสาสมัครจึงรีบจัดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลรีบเร่งให้การช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนโดยทันที แล้วรีบนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล สมเด็จพระปิ่นเกล้า ( โรงพยาบาลทหารเรือ ) อย่างเร่งด่วน และจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกับรถจักรยายนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ สีดำ ทะเบียน 6 ขพ 7739 กรุงเทพมหานคร ทราบต่อมาว่าเป็นของผู้ได้รับบาดเจ็บ และต่อมาเพื่อนของคนเจ็บได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวตามไปที่โรงพยาบาล แล้วจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พบเศษแก้วแตกกระจัดกระจายทั่วพื้น แล้วยังพบกับกองเลือดจำนวนหนึ่งซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเลือดของคนเจ็บ แล้วข้างกอหญ้าริมกำแพงมีปอกมีดพกตกอยู่ 1 ใบ ซึ่งน่าจะเป็นของคู่กรณีที่ใช้มีดแทง นาย จักรรินทร์ แล้วทิ้งปลอกมีดเอาไว้ให้ดูต่างหน้า ก่อนที่จะหลบหนีหายไป

จากการสอบถาม นาย เอ อายุ 16 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าว่า ตนพร้อมกลุ่มเพื่อนขี่รถจักรยานยนต์เล่นกันอยู่แล้วพอขับมาถึงเส้นวัดพุทธบูชา เลยช่วงโลตัสมาแล้วก็มาเจอพวกของตนพอดี แต่มันคิดว่าตนเป็นพวกอื่น ตนก็เลยขับตามไปทีนี้ก็วิ่งกระโดดลงรถมาแล้วก็ฟันตนเลยที่หน้าโลตัส คนที่แทงตนก็รู้จักกันเขามากัน 3 คน มาจักรยานยนต์ฮอนด้า PCX สีดำ มีมีดสั้นกันทุกคน พอเห็นตนที่หน้าโลตัส ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงเลยกระโดดลงรถมาฟันตนเลย แล้วตนก็ขับรถหนีจนมาจนมุมอยู่ใน ซอย พุทธบูชา 18 พวกเขาก็เข้ามารุมตนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่นาน สุดท้ายตนก็ถูกเขาเอามีดแทงข้างหลัง แล้วก็รุมตืบตนจนหนำใจแล้วก็หลบหนีไปกับความมืด ปล่อยตนจมกองเลือดอยู่ตรงนั้นจนมีเพื่อนมาพบแล้วก็ช่วยกันห้ามเลือด

และจากการสอบถาม นาย บี ( นามสมมุติ ) อายุ 15 ปี เป็นเพื่อนกับผู้ได้รับบาดเจ็บกล่าวว่า ตนขี่รถมากับเพื่อนกันสองคัน แล้วพอขี่รถเข้ามาถึงพุทธบูชาก็มาเจอกับผู้ก่อเหตุ เราเป็นเพื่อนกันรู้จักกัน แต่ 1 ในนั้นเขาไม่ถูกกับคนเจ็บพอเขาเห็นเขาก็ควักมีดออกมาฟันเลย แล้วเขาก็ตามมาแทงคนเจ็บในซอยนี้

ส่วนทางด้าน นาย สัญญา ( ขอสงวนนามกุล ) อายุ 40 ปี พลเมืองดี และเป็นอาสาสมัครของกู้ชีพบูรณะ กล่าวว่า เมื่อสักครู่ตนขับขี่รถส่งผู้โดยสารอยู่ ผ่านหน้าร้านเซเว่น ซอยพุทธบูชา 23 แล้ว ตนก็เห็นว่ามีวัยรุ่นสองกลุ่มเขากำลังไล่ตีกันอยู่แล้ว ตนก็นึกว่าไม่มีอะไรเพราะเขาแยกย้ายกันแล้ว ตนก็เลยไปส่งผู้โดยสารจนเสร็จแล้วก็วิ่งวนกลับมาแล้วก็มาเจอในซอย พุทธบูชา 18 มีชาย 1 ราย ถูกทำร้ายคือโดนแทงบริเวณด้านหลัง ตอนที่ตนมา ตนก็ไม่เห็นคู่กรณีแล้ว แต่บาดแผลของคนเจ็บจะอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณกระดูกสันหลัง

เบื้องต้นจากการสอบถามเพื่อนของผู้ได้รับบาดเจ็บบอกเล่ามาเพิ่มเติมว่า คนลงมือก่อตนรู้จักชื่ออยู่ 2 คน อายุประมาณ 18 ปี ส่วนอีกคนไม่ทราบชื่อแต่ผู้ก่อเหตุทั้งหมดอยู่ในซอย ตลาดแห่งหนึ่งย่านพระรามที่ 2 ส่วนสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเป็นความบาดหมางส่วนตัวที่เคยมีมาแต่ครั้งเก่าก่อนแต่ก็ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกันมาก่อน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เย้ยกฎหมาย ถึงขนาดขี่รถจักรยานยนต์พกพาอาวุธมีด ตรงนี้ถือว่าพร้อมก่อเหตุอาชญากรรมได้ตลอดเวลา แล้วถ้าเกิดนำอาวุธไปปล้นชิงทรัพย์ใคร หรือไปก่อเหตุการณ์ที่อาจจะนำมาถึงแก่ชีวิต แล้วอย่างนี้ประชาชนตาดำๆผู้หาเช้ากินค่ำจะยังมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอยู่หรือไม่