Uncategorizedข่าวทั่วไป

ฮีโร่ของชาวบ้าน หนุ่มจิตอาสาช่วยคนทำร้ายตนเองด้วยการกระโดดจากสะพานลอยจนตัวเองต้องดับแทน ่

ฮีโร่ของชาวบ้าน หนุ่มจิตอาสาช่วยคนทำร้ายตนเองด้วยการกระโดดจากสะพานลอยจนตัวเองต้องดับแทน

วันที่ 15 ตุลาคม 2567
เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานงานจากญาติผู้เสียชีวิตเนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นจิตอาสาชอบช่วยเหลือสังคม แล้วทีนี้เหตุการณ์ทั้งหมดได้เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำคืนของเมื่อวานที่ผ่านมา ( วันที่ 14 ตุลาคม 2567 เวลา 20.00 น. ) เป็นช่วงเวลานาทีชีวิต ของหนุ่มจิตอาสาวัย 52 ปีกับเหตุการณ์ครั้งสุดท้ายที่เขาได้ไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือ หนุ่มวัย 42 ปี น้อยใจภรรยาแล้วทำร้ายตนเองด้วยการกระโดดจากสะพานลอยหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง ถนน ประชาอุทิศ แต่ทว่าผู้ที่ทำร้ายตนเองด้วยการกระโดดสะพานลอยนั้นหนุ่มจิตอาสาคนดังกล่าวช่วยเอาไว้ได้แต่ คนที่ต้องจบชีวิตนั้นกลับกลายมาเป็นหนุ่มจิตอาสานั่นเอง เขาเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวซึ่งเขาเป็นโรคหัวใจได้เกิดอาการกำเริบขึ้นในที่เกิดเหตุแล้วก็ได้ทรุดตัวลงในขณะที่ช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากการกระโดดจากสะพานลอย และในที่สุดก็ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบที่ โรงพยาบาลบางประกอก 1 แต่คนที่เขาช่วยเหลือรอดชีวิตโดยตอนนี้ได้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ

เมื่อช่วงเวลา 20 .00 น. ของวันที่ 14 ตุลาคม 2567 อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูได้รับแจ้งเหตุมีผู้ทำร้ายตนเองด้วยการกระโดดจากสะพานลอย จึงรีบรุดจัดกำลังเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที และเมื่ออาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุดังกล่าวอยู่บริเวณสะพานลอยหน้าโรงเรียน ใกล้เคียงปากซอย ประชาอุทิศ 33 ถนน ประชาอุทิศ แขวง บางมด เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ที่พืนถนนใต้สะพานลอยดังกล่าว พบร่างของผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ในลักษณะนอนหงายหน้าอยู่บนพื้นถนน หายใจรวยริน เมื่ออาสาสมัครตรวจสอบจากร่างกายผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วพบว่ามีอาการกระดูกหักทั้งตัว มีเลือดไหลออกบริเวณปากและจมูก มีบาดแผลแตกบริเวณศรีษะ อาสาสมัครจึงให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นภายในที่เกิดเหตุแล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลราษฎร์บูรณะทันที และทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บต่อมาชื่อ นาย อุทัย อายุ 42 ปี แล้วต่อมาภายในที่เกิดเหตุพบผู้ป่วยเป็นชาย 1 ราย มีอาการชักกระตุก อาสาสมัครจึงรีบให้การปฐมพยาบาล แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาล บางประกอก 1 ทันที และต่อมาทราบชื่อผู้ป่วยคนดังกล่าว ชื่อ นาย เอกชัย เลิศพันธุ์ ( หรือ นาย เอก ) อายุ 52 ปี และทราบต่อมาว่าเป็นจิตอาสา ที่ไปช่วยผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์กระโดดสะพานลอยดังกล่าว และเมื่ออาสาสมัครนำร่างของหนุ่มจิตอาสาส่งถึงโรงพยาบาลแล้วทีมแพทย์พยาบาล ซึ่งได้ทำการช่วยเหลืออย่างเต็มที่และอย่างสุดความสามารถแล้วแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตหนุ่มจิตอาสาเอาไว้ได้จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับบรรดาญาติพี่น้องเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังมีสิ่งเล็กๆที่ทำให้ญาติของผู้ตายมีกำลังใจอยู่ก็คือความภาคภูมิใจ ที่ นาย เอกชัย เป็นคนที่มีจิตใจซึ่งเป็นจิตอาสาอย่างเต็มที่เต็มหัวใจจริงๆ ถึงแม้เขาจะรู้ตัวว่าเขาไม่สบายเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว แต่เมื่อได้ยินเสียงเเจ้งเหตุเมื่อมีผู้ได้รับบาดเจ็บก็รีบเร่งไปช่วยเหลือทันที โดยไม่คิดถึงตัวเองเลย นี่แหละฮีโร่ไม่จำเป็นต้องมีพลังพิเศษ แต่ขอให้มีใจรักในการช่วยเหลือผู้คนที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก ตรงนี้แหละคือพลังของฮีโร่อย่างแท้จริง

จาการสอบถาม นาง โกศุม เลิศพันธ์ุ อายุ 77 ปี เป็นคุณแม่ของ นาย เอก บอกเล่าว่า เอกเป็นลูกคนที่ 2 เป็นลูกชายคนเดียวในพี่น้อง 5 คน นอกนั้นผู้หญิงหมด เอกโตมาก็ชอบในด้านการช่วยเหลือคน เป็นจิตอาสามานานมาก เวลาออกไปข้างนอก เค้าก็จะบอกว่ามีเหตุออกไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนะ พอเสร็จจากเหตุเค้าก็จะกลับเข้าบ้านมา แต่เมื่อวานนี้เค้าก็ออกไปตามปกติ แต่ตนเห็นว่านานทำไมไม่กลับมาสักที แล้วก็มีคนมาบอกว่า เอกน๊อคไปนะ วูบไปนะ แล้วก็เสียชีวิตแล้ว ตนก็เสียใจนะ แต่ตนก็คิดว่าเค้าทำดีที่สุดแล้ว ในการเป็นจิตอาสาของเค้า เค้ามีโรคประจำตัวเป็นหัวใจเพิ่งตรวจเจอ ไม่นานมานี่เอง

และทางด้าน นาง เกศิณี สีมา อายุ 53 ปี เป็นพี่สาวของ นาย เอก บอกเล่าว่า เอกเป็นน้องชายตน ชอบช่วยเหลือคนตั้งแต่โตมาแล้ว และเป็นอาสาก็เกือบ 20 ปีได้ เพราะนานมากแล้ว เวลามีอุบัติเหตุหรือมีเหตุอะไรก็ชอบออกไปช่วย จบเหตุก็จะกลับเข้ามา แต่เมื่อวานนี้รู้ว่า มีเหตุคนกระโดดสะพานตรงหน้าโรงเรียน เค้าก็ออกไป แล้วหลังจากนั้น ก็มีเพื่อนอาสามาหาที่บ้าน มาบอกว่า เอก วูบไปนะ น๊อคไปนะ ตรงที่เกิดเหตุ ตนก็คิดว่าเออเดี๋ยวก็ช่วยส่งโรงบาล แต่สุดท้ายแล้ว เพื่อนอาสาเค้าก็บอกว่า ทางเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกันเต็มที่แล้ว เค้าทำดีที่สุดแล้วในการเป็นจิตอาสาของเค้า

ส่วนทางด้าน นาย ปริวิทธ์ โรหิตะบุตร อายุ 45 ปี เป็นเพื่อนอาสาด้วยกันบอกเล่าว่า รู้จักกับเอกมานานเป็น 10 ปีแล้ว นิสัยดี ชอบช่วยเหลือคน เมื่อก่อนจะตั้งจุดกันที่ปั้มบางจาก แล้วตอนนี้ย้ายมารวมตัวเพื่อช่วยเหลือประชาชนกันที่ใต้ด่วน กม.9 เลิกจากงานประจำมาก็จะมาอยู่ด้วยกัน เมื่อก่อนเวลามีเหตุ เอก ก็จะปั่นจักรยานไปตรวจสอบเหตุก่อน ถ้าอยู่ใกล้ แต่ถ้ามาอยู่รวมกันก็จะไปรถคันเดียวกัน ตอนรู้ว่าเกิดเหตุขึ้นก็ตกใจ ใจหายนะ รู้จากห้องกู้ภัยเมื่อวานนี่แหละ ก็คิดว่าเค้าทำดีที่สุดแล้ว

เบื้องตน นาย เอกชัย หนุ่มจิตอาสานั้นเป็นอดีตอาสาสมัครหลายหน่วยงาน รวมทั้งเป็นอดีตของหน่วยงานบรรเทาสาทารณภัยด้วย แต่ด้วยการเจ็บป่วยของร่างกายซึ่งป่วยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบซึ่งได้ตรวจพบโรคเมื่อต้นปีก็เลยเป็นด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงไม่ได้ต่อบัตรสมาชิกจากทางต้นสังกัด ซึ่งก่อนตรวจพบว่าตนเองป่วยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบได้เกิดอาการป่วยเป็นโรคน้ำท่วมปอดแล้วเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตากสินแล้วจากการตรวจสอบร่างกายของแพทย์จึงพบว่า นาย เอกชัย หนุ่มจิตอาสา ได้ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบด้วย และได้รับการรักษาตัวในเวลาต่อมาโดยการผ่าตัดทำบายพาสเส้นเลือดหัวใจไปหนึ่งเส้น แต่เหลืออีกหนึ่งเส้นที่กำลังจะเข้าการรักษาโดยการผ่าตัดแต่อยู่ในขั้นตอนของการรอเพื่อให้ร่างกายเตรียมพร้อมสมบูรณ์ซะก่อนแต่ก็ไม่ทันแล้ว ส่วนครอบครัวทั้งหมดมีพี่น้อง 5 คนรวมผู้เสียชีวิตแล้ว ผู้ตายเป็นลูกคนที่ 2 และเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวของครอบครัวอีกด้วย แต่อย่างไรแล้วการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของนาย เอกชัย หนุ่มจิตอาสา ถึงจะสร้างความเสียใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังนำความภาคภูมิใจมาให้ครอบครัวอีกด้วย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นแสดงให้เห็นว่าฮีโร่ อยู่ในใจไม่จำเป็นต้องมีพลังวิเศษใดๆทั้งสิ้นแต่ขอให้มีหัวใจของจิตอาสาที่แท้จริงก็พอ

ซึงทางครอบครัวได้กำหนดการสวดพระอภิธรรมศพ นาย เอกชัย เลิศพันธุ์ หนุ่มจิตอาสา ณ.วัดสารอด ศาลา 6 ถนน สุขสวัสดิ์ แขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร โดยทางญาติจัดให้มีการสวดพระอภิธรรมศพ เป็น เวลา 3 คืน ตั้งเเต่ คืนวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ไปจนถึง คืนวันที่ 18 ตุลาคม 2567 เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป และจะมีการฌาปนกิจศพในวันที่ 19 ตุลาคม 2567 เวลา 17.00 น.