หนุ่ม รปภ.หัวร้อนจ้วงแทงสาวแม่บ้านดูแลผู้สูงอายุ ร่างพรุน 11 แผลดับอนาถ ปมมีปากเสียงเรื่องซ่อมถนนหน้าบ้าน
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 29 สิงหาคม 2567
ร.ต.ท.วีรวิทย์ ทัศนภิญโญ รอง สว.(สอบสวน) สน.ธรรมศาลา รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทใช้อาวุธมีดมีผู้เสียชีวิต บริเวณหมู่บ้านแห่วหนึ่ง ย่าน พุทธมณฑลสาย 2 แขวงบางแคเหนือ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.บุญโรจน์ โลจายะ ผกก.สน.ธรรมศาลา พ.ต.ท.ปรีชา ใยมะเดื่อ รอง ผกก.สส.สน.ธรรมศาลา พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.ธรรมศาลา แพทย์เวรนิติเวช รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตร. และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 25/9 พบศพ นาง ผกากรอง อายุ 55 ปี อาชีพรับจ้างดูแลผู้สูงอายุ สภาพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อสีเหลือง นุ่งกางเกงขาสั้นสีเขียว ถูกอาวุธมีดแทงตามร่างกาย รวม 11 แผล นอนเสียชีวิต ใกล้กันพบอาวุธมีดปลายแหลมเปื้อนเลือด ตกอยู่ 1 เล่ม ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายสมเดช อายุ 56 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ถูกสายตรวจควบคุมตัวไป สน.
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายทำงานเป็นแม่บ้านดูแลผู้สูงอายุ มาประมาณ 2 ปี ที่บ้านเลขที่ 25/28 ซึ่งอยู่ท้ายซอยที่เกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุทางสำนักงานเขตได้มีการซ่อมแซมถนน โดยเทยางมะตอย ที่หน้าบ้านที่ผู้ตายทำงาน และมีการนำกรวยยางมาวางปิดถนนเพื่อรอให้ยางมะตอยแห้งสนิท ส่วน นาย สมเดช ซึ่งมาเป็น รปภ.หมู่บ้าน ได้ 1 ปีกว่า ที่มักมีปากเสียงกับผู้ตายบ่อยครั้ง โดยวานนี้ (28 ส.ค.) ทาง นายสมเดช พยายามจะมาหยิบกรวยออก โดยบอกกับผู้ตายว่า มันผ่านมา 2 วันแล้วน่าจะแห้งแล้ว แต่ทางผู้ตายก็ต่อว่า ไม่ให้เอากรวยออก จนเกิดมีปากเสียงกัน กระทั่งวันนี้ก่อนเกิดเหตุทางผู้ตาย ได้เดินออกจากบ้านที่ท้ายซอยมารับผู้สูงอายุที่กำลังนั่งรถเข็นอยู่ โดยมีหลานสาวของผู้สูงอายุเป็นผู้เข็นรถมา บริเวณจุดเกิดเหตุ จังหวะที่ผู้ตายกำลังเข็นรถให้ผู้สูงอายุ จู่ ๆ ทางผู้ก่อเหตุได้เดินนำอาวุธมีดปรี่เข้าไปหาผู้ตาย พร้อมกับพูด ว่า “กูจะฆ่ามึงให้ตาย” จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธมีดที่เตรียมมาจ้วงแทงผู้ตาย จำนวนหลายครั้งจนแน่นิ่ง และยืนรอมอบตัวกับตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา นาย สมเดช ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนร่างผู้ตายส่งไปชันสูตร ที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อชันสูตรหาสาเหตุเพิ่มเติมก่อนประสานให้ญาติมารับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
/////