พาดหัวข่าวอุบัติเหตุ

คนขับกระบะดื่มสองขวดพุ่งชนเข้าร้านอาหาร ชาวบ้านแตกกระเจิง รถ จยย. เสียหายหลายคัน ย่านประชาอุทิศ

คนขับกระบะดื่มสองขวดพุ่งชนเข้าร้านอาหาร ชาวบ้านแตกกระเจิง รถ จยย. เสียหายหลายคัน ย่านประชาอุทิศ

วันที่ 4 พฤศจิกายนต์ 2567 เวลา 20.33 น.

ร้อยตำรวจโท อนาวิล วุฒิพิมลรัชต์ รอง สว.สอบสวนสน.ทุ่งครุ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งชนร้านอาหาร และภายในที่เกิดเหตุ มีรถจักรยานยนต์ ได้รับความเสียหายหลายคัน เหตุเกิดบริเวณใกล้เคียงปากซอยประชาอุทิศ 56 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสาน อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร.เขตราษฎร์บูรณะ ) เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่พร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณหน้าร้านอาหาร ครัวนิโซม บ้านเลขที่ 14 ริมถนนประชาอุทิศ ใกล้เคียงปากซอยประชาอุทิศ 56 แขวง ทุ่งครุ เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 3 ฒส 7334 กรุงเทพมหานคร ด้านข้างพ่นสีตัวหนังสือสีแดงระบุข้อความว่า รับซื้อซากรถ ในลักษณะจอดนิ่งสนิทอยู่บนฟุตบาทในลักษณะพุ่งชนเข้าไปภายในร้านอาหารดังกล่าวจนข้าวของกระจัดกระจายได้รับความเสียหาย และบริเวณหน้ารถกระบะคันดังกล่าวมีรถจักรยานยนต์ของประชาชนถูกชนขึ้นไปด้วยในลักษณะติดคากันชนหน้าอยู่ได้รับความเสียหายทั้งคัน ส่วนด้านข้างขวาของตัวรถกระบะเบียดติดกับต้นไม้ใหญ่หน้าร้านและมีจักรยานยนต์ติดคาอยู่ด้วยอีก 1 คันในสภาพพังเสียหายยับเยินเหมือนกัน ส่วนบริเวณขอบฟุตบาทก็ยังพบกับรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านล้มตะแคงคว่ำอยู่บนพื้นถนน ในสภาพพังเสียหายยับเยินอีก 2 คัน ส่วนตัวผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวอยู่ในสภาพเมามายมึน งง นั่งอยู่ภายในรถโดยที่ไม่ยอมลงมาจากภายในรถกระบะคันดังกล่าว และมีท่าทีพยายามจะขับรถหลบหนี ชาวบ้านจึงช่วยกันล้อมจับกุมตัวเอาไว้ได้ แต่ก็อยู่ในสภาพมึนเมาพูดจาวกไปวนมา แล้วเพื่อนที่มาด้วยกันก็มีอาการมึนเมาเช่นเดียวกัน และก็อยู่ในสภาพพูดจาวกไปวนมาเหมือนกัน จากการตรวจสอบภายในรถกระบะคันดังกล่าวพบใบกระท่อมที่บรรจุเอาไว้ในถุงพลาสติกใส และบรรจุเอาไว้ในถุงพลาสติกสีขาวขุ่น มีจำนวนเต็มถุงทั้งคู่ และบริเวณที่พักเท้าผู้โดยสารพบขวดแก้วลักษณะเหมือนขวดเหล้าแต่ด้านในบรรจุน้ำผึ้งเอาไว้จนเต็มขวดอยู่ 1 ขวด

และจากการสอบถาม นาย วราวุธ อายุ 38 ปี ร้านขายโตเกียว บอกเล่าว่า ตนกำลังทำขนมให้กับลูกค้าที่มารอหน้าร้าน แล้วก็มีรถกระบะพุ่งชนรถมอไซค์ที่จอดอยู่ริมฟุตบาทขึ้นมาบนทางเท้าเฉียดหน้าร้านของตนไปร้านขายอาหารตามสั่งข้างๆ ตอนนั้นมีลูกค้าที่นั่งรออยู่ 2 คน เป็นแฟนกัน แต่ผู้หญิงบาดเจ็บ คนเดียว น่าจะเจ็บที่มือ ส่วนคนขับกระบะก็นั่งกันมา 2 คน คนขับก็บาดเจ็บด้วยเห็นมีเลือดไหลที่หน้า

และคุณ นา อายุ 24 ปี เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์คันที่โดนชนติดกับต้นไม้ บอกเล่าว่า ตนเพิ่งมาถึงก็จอดรถและเดินเข้าไปในร้านอาหารตามสั่งเพื่อจะสั่งอาหาร พอเข้าไปถึงก็ได้ยินเสียงดังเลยหันไปก็มีรถกระบะพุ่งมาถึงหน้าร้านแล้ว และหน่ำซ้ำยังพุ่งชนรถที่ตนจอดอยู่ขึ้นมาติดคากับต้นไม้อีกด้วย รถคันนี้ตนเพิ่งไปเครมกลับมา ก็มาโดนชนอีกแล้ว รถกระบะมีกัน 2 คน เห็นว่าเมากันด้วย ตอนแรกเห็นว่าจะถอยหนีด้วย

ส่วนทาง นาย สมควร อายุ 66 ปี เป็นคนขับรถกระบะ บอกเล่าว่า ขับมาผ่านมอไซค์มาเลย ดื่มมา 2 ขวด มากัน 2 คน พอลงรถมาโดนต่อยเลย เลือกไหลเต็มเลย

ทาง คุณ เปี๊ยก อายุ 53 ปี ทำงานที่ร้านอาหารตามสั่ง บอกเล่าว่า มีมอไซค์มาชะลอ ตรงหน้า แล้วรถกระบะ ก็หักขึ้นมาเลย อยู่กันหน้าเตาพอดี ก็ตกใจกัน แล้วมันก็จะถอยรถ ก็บอก ยังถอยไม่ได้นะ

นาย จารึก บุญมาเลิศ อายุ 66 ปี เป็นเจ้าของร้านอาหารกล่าวว่า ตนกำลังยืนอยู่หน้าร้านพอดีเขามาด้วยความเร็วแหละแล้วเขาก็ชนมอเตอร์ไซค์แล้วก็ขึ้นมาบนถนนแล้วเขาก็ยังติดเครื่องอยู่แล้วตนก็บอกว่าให้ดับเครื่องก่อน ตนก็เห็นว่าท่าทางของคนขับกับคนนั่งมาด้วยนั้นมีอาการมึนเมากันทั้งสองคนเลย เป็นผู้ชายทั้งสองคน แต่เขาไม่โวยวายอะไรเลยนะแต่ว่ามีท่าทีว่าจะหนี ตนก็เลยควบคุมตัวเขาเอาไว้ก่อน ตนก็เลยถามเขานะว่า เมาหรือเปล่า เขาก็บอกกับตนว่า 2 ขวดเอง แต่เขาก็ไม่ได้บอกนะว่ากินอะไรแค่เขาบอกว่าดื่มมา 2 ขวดเท่านั้นเอง ตนไม่รู้ว่าประกันรถเขาขาดหรือเปล่านะ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อผู้ขับขี่รถกระบะคันดังกล่าวแล้ว ชื่อว่า นาย สมควร แพงสมศรี อายุ 66 ปี ส่วนเพื่อนที่นั่งมาด้วยกันยังไม่ทราบชื่อเพราะยังอยู่ในอาการมึนเมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญทั้งสองคนไปที่ สน.ทุ่งครุ เพื่อตรวจวัดแอลกอฮอล์ ว่ามีปริมาณเกินที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ และจะสอบสวนเพิ่มเติมถึงสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้งแล้วจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป และจากเหตุการณ์ดังกลาวส่งผลให้มี รถจักรยานยนต์ ได้รับความเสียหาย 4 คัน รถกระบะของผู้ก่อเหตุ 1 คัน และร้านอาหารได้รับความเสียหายบริเวณหน้าร้านกับวัตถุดิบ และอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัว แต่ยังถือว่าโชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว