ฆ่าตัวตายพาดหัวข่าว

สุดสลด ชายอายุ 44 ปี ผูกคอดับใต้ต้นตะขบ ย่านประชาอุทิศ

ชายอายุ 44 ปี ผูกคอดับใต้ต้นตะขบ ย่านประชาอุทิศ

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เมื่อช่วงเย็นของวันนี้

พ.ต.ท.อรรถกานต์ จูมพลา สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย สาเหตุจากการทำร้ายตนเองด้วยการผูกคอกับต้นตะขบ ภายในซอยประชาอุทิศ 31 จึงรีบรุดจัดกำลัง พร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร. เขตราษฎร์บูรณะ ) และ อาสาสมัครหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย ฐานธน 28 เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมอุปกรณ์ส่องแสงสว่าง ทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาสมัครจากหน่วยงานต่างๆถึงที่เกิดเหตุแล้วพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในซอย ประชาอุทิศ 31 ถนน ประชาอุทิศ แขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ภายในที่เกิดเหตุพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น วีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน สส 9156 กรุงเทพมหานคร จอดนิ่งสนิทอยู่บริเวณท้ายซอยดังกล่าวโดยภายในรถยนต์คันดังกล่าวได้เสียบกุญแจรถเอาไว้ แต่ประตูทั้ง 4 บานถูกล็อคเอาไว้ และไม่พบเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกระจายกำลังค้นหาโดยรอบภายในที่เกิดเหตุอยู่นานจนกระทั้งพบร่างของเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวในลักษณะผูกคออยู่บริเวณใต้ต้นตะขบภายในป่าข้างทางซึ่งเป็นพื้นที่ว่างเปล่า และจากการตรวจสอบทะเบียนราษฎร์ จากผู้ครอบครองรถยนต์นั่งส่วนบุคคลคันดังกล่าว จึงทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาชื่อ นาย พชระ ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 44 ปี เป็นชาวจังหวัด อำนาจเจริญ ในสภาพสวมใส่เสื้อเชิตแขนยาวสีขาว กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน สวมใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว ที่ลำคอมีเชือกผูกรองเท้าสีแดง สีขาว และสีชมพู ถูกผูกมัดต่อกันแล้วบริเวณปลายของเชือกผูกยึดติดกับกิ่งของต้นตะขบ ส่วนลักษณะการตายเป็นท่ายืนงอเข่ามือซ้ายจับกิ่งไม้เอาไว้แน่นปลายเท้าเหยียบพื้นดิน

และจากการสอบถาม นางสาว ธัญรัตน์ อายุ 34 ปี เป็นอดีตเพื่อนร่วมงาน กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเคยทำงานที่เดียวกับตน แต่ตอนนี้โรงงานดังกล่าวปิดกิจการไปแล้ว ก็แยกย้ายกันไป แต่เขาก็จะเข้ามาเล่นเป็นประจำในซอยนี้ แต่ถ้าเจอกันก็ทักทายกันเป็นปรกติแต่ว่าตนก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาไปทำงานที่ไหนแล้วเขาไปพักอาศัยที่ไหน แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าเขามีครอบครัวหรือมีญาติที่ไหนหรือเปล่า

ส่วนทางด้านนาย สา อายุ 30 ปี กล่าวว่าตนเจอกับเขาครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาเพราะได้คุยกับเขาเป็นครั้งสุดท้ายตอนนั้น แต่ที่ผ่านมาก็เห็นเขามาจอดรถนั่งเล่นอยู่แถวนี้เป็นประจำอยู่แล้ว ก็เลยคุ้นหน้าคุ้นตากันก็ทักทายกันปรกติแต่ไม่ได้รู้จักอะไรกันมากมาย แต่เมื่อวันก่อนก็ยังเห็นอยู่แต่ช่วงบ่าย 2 โมงก็ไม่เห็นเขาแล้ว เขาจะออกไปแล้ว แต่จะเห็นเขาบ่อยๆตอนช่วง 10 โมงถึง 11 โมง วันนี้ก็เห็นจอดรถอยู่ตรงนี้ตอนเวลา 10 โมงเช้าแต่ไม่เห็นเขานะเห็นแต่รถจอดอยู่

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชได้ตรวจสอบจากสภาพร่างกายของผู้เสียชีวิตแล้วไม่พบบาดแผลใดๆ และไม่พบร่องรอยจากการต่อสู้ และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ก็ไม่พบสิ่งผิดปรกติใดๆ ตรวจสอบภายในรถยนต์ของผู้เสียชีวิตก็ไม่พบสิ่งผิดปรกติ แต่อย่างไรแล้วจะต้องส่งร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และจะเร่งติดตามหาญาติให้มารับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป