ขโมยไฟฟ้าขุดเหรียญบิตคอยน์เรียกค่าเสียหายย้อนหลังเป็นเวลา 6 ปี รวมเป็นเงินกว่า 1.2 ล้านบาท
ขโมยไฟฟ้าขุดเหรียญบิตคอยน์เรียกค่าเสียหายย้อนหลังเป็นเวลา 6 ปี รวมเป็นเงินกว่า 1.2 ล้านบาท
เวลาประมาณ 09.00 น. วันนี้ 26 มี.ค.2568 พ.ต.ท.พลกูล ชอบกิจ รอง ผกก.สส.สภ.คลองแงะ พ.ต.ต.จิระศักดิ์ ศรประสิทธิ์ สวป.สภ.คลองแงะ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองแงะ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร.5021 เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาพังลา
เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 2/7 ม.1 ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา จ.สงขลา หลังจากที่ ร.ต.อ.สำราญ ไชยศรี พนักงานสอบสวน สภ.คลองแงะ ได้รับแจ้งจาก นายสุพงศ์ มุสิกโสฬล ผู้รับมอบอำนาจจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาพังลา ว่ามีการนำสายไฟฟ้าไปเชื่อมต่อกับสายไฟฟ้า แล้วเดินสายไฟที่เชื่อมต่อเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าวโดยไม่ผ่านมิเตอร์วัดไฟฟ้า จึงเชื่อว่ามีการลักกระแสไฟฟ้า
โดยบ้านดังกล่าวมีนายจำรูญ (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี เป็นเจ้าของบ้าน (ข้อมูลจากฐานข้อมูลผู้ขอใช้ไฟฟ้า) ภายหลังมีการติดต่อให้นายจำรูญฯ มาเปิดประตูบ้านเพื่อทำการตรวจสอบ ซึ่งภายในบ้านพบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์สำหรับขุดเหรียญบิดคอยน์ วางเรียงรายบนชั้นวาง แต่ เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจึงได้รักษาที่เกิดเหตุ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจค้นในช่วงเช้าวันนี้ ( 26 มี.ค.)
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านลักษณะเป็นห้องแถว ซึ่งหลังที่เข้าตรวจสอบพบมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด และมีการปิดช่องลมหรือช่องระบายอากาศไว้อย่างมิดชิด ภายในห้องพบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์วางเรียงรายอยู่บนชั้นวาง รวมจำนวน 10 ชุด พัดลมตั้งพื้นขนาดใหญ่ 3 เครื่อง และอุปกรณ์อื่นๆเช่น พัดลมดูดอากาศ ชุดเบรกเกอร์ ชุดตั้งเวลาเปิดปิดพัดลม ชุดป้องกันฟ้าผ่า อีกจำนวนหนึ่ง จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำไปยัง สภ.คลองแงะ
จากการสอบสวนนายจำรูญฯ ให้การว่าชุดคอมพิวเตอร์ทั้งหมดเป็นของตนเอง ใช้สำหรับเป็นอุปกรณ์ในการขุดเหรียญดิจิทัล บิตคอยน์ และ อีทีเรียม Ethereum ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบอกว่าจะต้องใช้เครื่องแก้สมการคณิตศาสตร์ หากแก้ได้ก็จะได้รับรางวัลเป็นเหรียญซึ่งเหรียญจะมีราคาสูงมาก
นายสำราญ ขุนฤทธิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 ภาคใต้ จังหวัดยะลา บอกว่าทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่ากระแสไฟฟ้าถูกลักมาเพื่อใช้ในการนี้ไม่ต่ำกว่า 4- 5 ปี ซึ่งในกรณีละเมิดเราเสียโอกาสในเก็บค่ากระแสไฟฟ้า เนื่องจากการเชื่อมต่อสายไฟไม่ผ่านเครื่องวัด ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบว่าค่าเสียหายในส่วนนั้นมากน้อยแค่ไหน
ล่าสุดมีข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการว่าการไฟฟ้า เรียกค่าเสียหายย้อนหลังเป็นเวลา 6 ปี รวมเป็นเงินกว่า 1.2 ล้านบาท จากนายจำรูญฯ ผู้ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ พร้อมยังถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์อีกด้วย
พี่เสือ นักข่าว สงขลา