อำเภอกระนวน ร่วมกับ ชุมชน ต่อยอดการบำบัดรักษาผู้ป่วยยาเสพติด น้อมนำหลัก “บวร” ประสานคณะสงฆ์ เปิดศูนย์พักคอย 2 วัด นำผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูเข้าปฏิบัติธรรม และ ทำกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาจนกว่าจะพร้อมกลับไปใช้ชีวิตแบบปกติ
อำเภอกระนวน ร่วมกับ ชุมชน ต่อยอดการบำบัดรักษาผู้ป่วยยาเสพติด น้อมนำหลัก “บวร” ประสานคณะสงฆ์ เปิดศูนย์พักคอย 2 วัด นำผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูเข้าปฏิบัติธรรม และ ทำกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาจนกว่าจะพร้อมกลับไปใช้ชีวิตแบบปกติ
เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 นายคเณศวร เกษอินทร์ นายอำเภอกระนวน พร้อมด้วย นายพงษ์ศักดิ์ ทรัพย์ศิลาทอง สาธารณสุขอำเภอ กระนวน นายธวัชชัย ทวีผล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้นำผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูที่ศูนย์พักคอย กองร้อย อส.อำเภอกระนวน จำนวน 20 คน เข้าปฏิบัติธรรมที่วัดป่าบ๋าหลวง และ วัดพัฒนสีลา โดยเป็นกิจกรรมต่อยอดหลังจากการบำบัดฟื้นฟูแล้ว ด้วยการนำแนวทางศาสนามาบำบัดผู้เสพ/ผู้ป่วยยาเสพติด นำกิจกรรมของศาสนา เช่น การฟังธรรมมะ การนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม มาส่งเสริมให้ผู้เข้ารับการบำบัดฟื้นฟูทุกคนตระหนักรู้คุณค่าของตนเอง ระลึกถึงพระคุณพ่อแม่ มีความคิดสร้างสรรค์ในเชิงบวก มีหลักการดำรงชีวิตอย่างพอเพียงและมีความสุข โดยได้นำผู้ผ่านการบำบัดยาเสพติดของอำเภอกระนวน เข้าพักที่วัดเพื่อฝึกปฏิบัติธรรม และ ทำกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาวัดและชุมชน โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ โดยจัดให้พนักงานฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเข้าร่วมดูแลความเรียบร้อย และนำกิจกรรมในทุกวัน และส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมดูแลรับผิดชอบ โดยไม่มีกำหนดระยะเวลา จนกว่าจะมีความพร้อมกลับชุมชน
สำหรับการจัดการปัญหายาเสพติดในพื้นที่อำเภอกระนวน ได้ดำเนินทุกมาตรการอย่างครบวงจร ตั้งแต่การป้องกันในสถานศึกษา สถานประกอบการ เฝ้าระวังในชุมชน โดยผ่านรูปแบบโครงการ To Be Number One และ กองทุนแม่ของแผ่นดิน มาตรการปราบปรามด้วยการบูรณาการหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอย่างเฉียบขาดต่อเนื่อง มาตรการบำบัดฟื้นฟู ด้วยการขับเคลื่อนจัดตั้งศูนย์บำบัดยาเสพติด มินิธัญญารักษ์ อำเภอกระนวน และ ศูนย์พักคอยยาเสพติด กองร้อย อส.อำเภอกระนวน ที่ 4 เพื่อรักษาฟื้นฟูสุภาพร่างกายและจิตใจของผู้เสพ/ผู้ป่วย และฝึกอาชีพ ตลอดจนมาตรการติดตามฟื้นฟูสภาพทางสังคมหลังกลับสู่ชุมชน โดยนายอำเภอกระนวน พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าเยี่ยมติดตามช่วยเหลือพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยตนเองทุกราย เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ได้อย่างยั่งยืน