ข่าวทั่วไปพาดหัวข่าว

จัดอย่างยิ่งใหญ่ นางรำจาก 4 เผ่าไทย กว่า 5 พันคน ร่วมรำเฉลิมฉลอง 242 ปี จังหวัดศรีสะเกษ มีสินค้า OTOP มากมายจำหน่ายภายในทำงาน

จัดอย่างยิ่งใหญ่ นางรำจาก 4 เผ่าไทย กว่า 5 พันคน ร่วมรำเฉลิมฉลอง 242 ปี จังหวัดศรีสะเกษ มีสินค้า OTOP มากมายจำหน่ายภายในทำงาน

***เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 67 ที่บริเวณบลานโคปุระ ภายในสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา (เกาะห้วยน้ำคำ) อำเภอเมืองศรีสะเกษ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดกิจกรรมรำเฉลิมฉลอง 242 ปี จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อแสดงออกถึงความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์อันเจริญรุ่งเรืองของเมืองศรีสะเกษ และเพื่อสำนึกถึงบรรพบุรุษผู้สร้างบ้านแปงเมืองศรีสะเกษมาอย่างยาวนาน โดยมีนางรำจาก 4 เผ่าไทย ทั่วทั้ง 22 อำเภอ ในจังหวัดศรีสะเกษ กว่า 5,000 คน ต่างๆทางมร่วมรำเฉลิมฉลอง 242 ปี จังหวัดศรีสะเกษ กันอย่างสวยงาม ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวเป็นหนึ่งในกิจกรรมของงานเฉลิมฉลอง 242 ปี จังหวัดศรีสะเกษ ที่จัดขึ้น 7 วัน ระหว่างวันที่ 18-24 พฤศจิกายน 2567 ณ ลานออดหลอด และ บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา (เกาะห้วยน้ำคำ)


**ทั้งนี้ภายในงานยังมีการแด่ระมิตรเกาะกลางน้ำแห่งนี้ด้วยการประดับประดาแสงไฟที่สวยงาม ตามจุดต่างๆ อย่างสวยงาม เพื่อให้ประชาชนชาวจังหวัดศรีสพะเกษ และนักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปความสวยงามขอแสงไฟยามค่ำคืนภายในเกาะกลางน้ำห้วยน้ำคำอีกด้วย นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมแสดงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวแบบบูรณาการ ยกระดับผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ด้วยนวัตกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียน สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน สู่สุดยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น ของจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งจะมีสิ่งค้าของดีจากทั่วจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 80 กลุ่ม เช่น ประเภทอาหาร จำนวน 15 กลุ่ม ,ประเภทเครื่องดื่ม จำนวน 15 กลุ่ม ,ประเภทผ้าและ เครื่องแต่งกาย จำนวน 20 กลุ่ม ,ประเภทของใช้ของตกแต่ง จำนวน 15 กลุ่ม และประเภทสมุนไพร


***ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างโอกาสและเพิ่มช่องทางการตลาด แก่กลุ่มมผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จังหวัดศรีสะเกษ และเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นของจังหวัดศรีสะเกษ โดยการนำนวัตกรรมวัตถุดิบพื้นท้องถิ่นอัตลักษณ์จังหวัดที่สร้างคุณค่าสร้ามูลค่าเพิ่ม ต่อยอดให้เกิดอาชีพ สัมมาชีพชุมชน สินค้า OTOP ที่สามทำได้ตลอดทั้งปี เกิดรายได้แก่กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และประชาชนในชุมชนต่อไป


ภาพ/ข่าว วนิดา,ชาญฤทธิ์