นราธิวาส – ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านชำแล้ว เตรียมบุกค้นบ้านเผยเป็นคนเคยฝึกใช้อาวุธ
สำหรับความคืบหน้ากรณีคนร้ายแต่งชุดดำใช้อาวุธปืนพก ตระเวนบุกจี้ชิงทรัพย์ร้านจำหน่ายของชำ 2 จุด ในพื้นที่ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ในช่วงค่ำของวันที่ 1 ก.ย.67 ที่ผ่านมา ซึ่งการก่อเหตุในครั้งนี้คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิง น.ส.สุดารัตน์ อาจารย์สอนวิชาวิทยาศาสตร์ วิทยาลัยเทคนิคนราธิวาส และ น.ส.ปวีณา ถิ่นจะนะ 2 พี่น้องเจ้าของร้านชำ เอยูเทรดดิ้ง ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่คนร้ายได้เงินไปเพียง 200 บาท และได้อาศัยความมืดหลบหนีไปนั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ ผกก.สภ.โคกเคียน เปิดเผยว่า ที่เกิดเหตุจุดแรกที่ ม.8 บ้านทุ่งกง เราได้ปลอกกระสุนปืน .380 จำนวน 4 ปลอก และวงจรปิดที่จับภาพคนร้ายได้ คนร้ายน่าจะเป็นคนที่ดูจากลักษณะท่าทาง การเดินการถืออาวุธและการยิงน่าจะเป็นคนที่เคยฝึกยิงปืนมา และได้ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านรถ จยย.ฟังเสียงหลังจากก่อเหตุฟังเสียงแล้วน่าจะเป็นรถเก่า น่าจะเป็นรถยามาฮ่าเมทหรือว่ารถซูซูกิ อาร์.ซี. ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องของการชิงทรัพย์อย่างเดียว แถมคนร้ายน่าจะติดยาด้วยซึ่งการสืบสวนมีความคืบหน้าพอสมควร และจะมีการปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักต้องสงสัย และจากการวิเคราะห์น่าจะเป็นคดีส่วนตัว เพราะว่าคนร้ายมาคนเดียวและก็ถ้าเป็นคดีความมั่นคงคนร้ายจะมาหลายคน และอาวุธปืนที่ใช้จะเป็นปืนยาว
และจากการเดินทางไปตรวจสอบร้านขายของชำ เอยูเทรดดิ้ง เลขที่ 4/1 บ้านทุ่งกง ม.8 ต.โคกเคียน ที่คนร้ายได้ยิง น.ส.ปวีณา และ น.ส.สุดารัตน์ 2 พี่น้องได้รับบาดเจ็บ พบว่า ร้านขายของชำหลังจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบเพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน ในการเชื่อมโยงถึงตัวคนร้ายนั้น วันนี้ร้านขายของชำดังกล่าวยังคงปิดกิจการ ได้เป็นจุดที่ได้รับความสนใจของพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าว รวมทั้งประชาชนที่ขี่ยานพาหนะผ่านไปมา ที่ถือว่าเป็นการค้าเล็กๆแห่งหนึ่งที่คนร้ายไม่น่าจะเข้ามาก่อเหตุและยิงคนภายในร้านได้รับบาดเจ็บ
ด้านแหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่นายหนึ่ง เปิดเผยว่า คนร้ายที่ก่อเหตุขึ้นมาครั้งนี้ จะมีลักษณะท่าทางเป็นคนผอมสูงผิวดำเดินไม่ค่อยถนัดหรือขาข้างนึ่งเป๋ด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการสืบสวนสอบสวนหาคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีแบบไม่ค่อยยากเย็นนัก ส่วนผลการพิสูจน์ปลอกกระสุนที่ส่งไปยังศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 จ.ยะลา จะรู้ผลอีกใน 1 ถึง 2 วันนี้
/////////////////////////////// 3 กันยายน 2567
ฮามีดะห์ ยูโซ๊ะ ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน