ปทุมธานี – คึกคักสมัคร สจ.วันแรกปทุมธานี ผู้สมัครลงครบทุกเขต บิ๊กแจ็สพอใจชี้แจ้งอนุทินมาพบไม่มีนัยยะเน้นพรรคพวก กับประโยชน์คนปทุม
ปทุมธานี คึกคักสมัคร สจ.วันแรกปทุมธานี ผู้สมัครลงครบทุกเขต บิ๊กแจ็สพอใจชี้แจ้งอนุทินมาพบไม่มีนัยยะเน้นพรรคพวก กับประโยชน์คนปทุม
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 23 ธันวาคม 2567 ที่ห้องปทุมรัตน์ วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปทุมธานี (กกต.ปทุมธานี) เปิดรับสมัคร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี วันแรก มีผู้สนใจสมัครมาก เช่นทีมคนรักปทุมในนามของ พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ทีมคลองหลวงก้าวหน้า ในนามของนายสุเทพ วงษ์แจ้ง นายกเทศมนตรีเมืองท่าโขลง โดยพรรคประชาชน ส่งลง7 เขตและผู้สมัครในนามอิสระ
สำหรับการรับสมัคร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี จะแบ่งออกเป็น 7 อำเภอ รวม 36 เขต เลือกตั้ง โดยแบ่งเป็น อ.ลำลูกกา 9 เขต อ.คลองหลวง 9 เขต อ.เมืองปทุมธานี 6 เขต อ.ธัญบุรี 6 เขต อ.ลาดหลุมแก้ว 2 เขต อ.สามโคก 2 เขต และ อ.หนองเสือ 2 ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงณเวลานี้ มีผู้สมัครแล้วทั้งหมด 65 คน แต่ยังมีการรับสมัครต่อไปจนถึงวันที่ 27 ธ.ค. 2567 ส่วนวันลงคะแนนเลือกตั้ง คือวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. 2568 ระหว่างเวลา 08.00-17.00 น. ส่วนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ร่วมทั้งสิ้น 962,891 คน สำหรับการเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบจ.ครั้งนี้ ทาง กกต.ปทุมธานี จะพยายามรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิให้มากที่สุด
ด้าน พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ในวันนี้มีผู้สมัคร ส.อบจ.ปทุมธานี มาสมัครจำนวนมาก และ คึกคัก ซึ่งที่แล้วมา สจ.เค้าจะคิดอยู่เพียงว่า ถ้าไม่ใช่ทีมเดียวกับนายก แล้ว เค้าจะไม่เสนอโครงการเลย ผมก็ทำอะไรไม่ได้ผมอยากให้ปรับความคิดเมื่อเลือกตั้งเข้ามาแล้วผมอยากให้เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่เอาแต่พูดว่า ขอไปก็ไม่ได้ ทั้งๆ ที่คุณไม่เสนออะไรเข้ามาเลย ทำแบบเนี้ยมันเสียโอกาสของประชาชน ผมยืนยันปทุมธานีต้องเดินหน้าไปด้วยกัน เดินหน้าไปอย่างทัดเทียมกันทั้งจังหวัด
พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้กล่าวว่า จากกรณีที่ทาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 1 มาทานอาหารอย่างสนิทสนมเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ที่ผ่านมา มันไม่ได้มีนัยยะอะไรเลยผมอยากให้ปทุมธานีพัฒนาไปได้ในทุกรูปแบบ นายก อบจ.ต้องสังกัดพรรคเดียว คือ พรรคพวก ถ้านายก อบจ.ไปสังกัดพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่งหากขอความร่วมมือจากกระทรวงที่ต่างพรรคกัน อาจจะไม่ได้รับการช่วยเหลือได้ การมีพรรคพวกสามารถทำให้เราสามารถประสานงานในด้านต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้น ผมยกตัวอย่าง เมื่อเดือนที่แล้วท่านเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผมก็เชิญท่านมาและท่านนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ท่านก็มา ทีนี้ผลดีคืออะไร พอท่านเดชอิศม์มา ท่านดูแลแพทย์พื้นบ้าน กระทรวงสาธารณสุข ผมก็เชิญ ผอ.โรงพยาบาลในปทุมธานี ผอ.โรงพยาบาล สปสช ท่านสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี มาร่วมต้อนรับท่าน และนำปัญหามาแจ้งอย่างเช่น โรงพยาบาลลาดหลุมแก้วมีขนาดเล็กไม่เพียงพอบริการประชาชนกำลังต้องการสร้างตึกด่วนแต่ไม่มีงบประมาณ เราก็ขอท่านให้ท่านช่วยผลักดัน ท่านก็รับสภาพปัญหาไปแล้วท่านก็นำไปแก้ปัญหา อะไรที่ท่านทำได้ ท่านก็สังการลงมา และวันนี้เราก็ประสานกับ สสจ.มันทำงานเร็วขึ้น มันเกิดประโยชน์กับประชาชนเร็วขึ้น อย่างกรณีวันที่ 20 ธ.ค. วันเดียวกันกับที่ท่าน อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 1 มา ช่วงเช้าท่านวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิด ” งานวันคนพิการสากลจังหวัดปทุมธานี ประจำปี 2567 ผมก็ไปรับท่านเพราะเราสนิทกันตั้งแต่ที่ผมอยู่สุพรรนบุรี เราเห็นชัดเจนว่าเมื่อเราประสานงานกับท่านวราวุธ ศิลปะอาชา ทาง พม.ปทุมธานี ก็มาต้อนรับท่าน ตอนนี้เราก็พยายามของบประมาณในส่วนของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมันคงของมนุษย์ ลงมา ซึ่งตอนนี้ ผมสามารถยืนยันได้เลยว่าตอนนี้ผู้พิการที่เดินไม่ได้ หรือมนุษย์ล้อ ในจังหวัดปทุมธานีเราไม่มีแล้ว ที่จะขาดรถเข็นเป็นต้นอะไรที่ผมประสาน สิ่งดีๆได้เพื่อประโยชน์ของคนปทุมผมทำทันที่