ฉาว !! แก๊งสีกากี ตระเวนกรรโชคทรัพย์ ชาวบ้านย่านบางบ่อ
แก๊งสีกากี ตระเวน ข่มขู่ เรียกเงิน 5 พัน อ้างนกเป็นสัตว์ป่าสงวนห้ามเลี้ยง ทั้งที่เจ้าของมีเอกสารให้ดู แต่ไม่สนใจ หลังได้เงินบอกเป็นนัยให้เก็บนกไว้ในบ้าน หากผ่านมาเห็นอาจแวะอีก ขณะที่ผู้เสียหายถูกรีดไถเป็นครั้งที่ 2 ตัดพ้อ นี่มันโจรในคราบตำรวจ จึงวอนผ่านสื่อ ช่วยเป็นกระบอกเสียงหยุดพฤติกรรม
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 4 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 200 /29 หมู่ที่ 1 ต. บางเพรียง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ พบกับภรรยาและลูกชายเจ้าของโรงกลึง นำภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 15.30 น.มีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 5-6 คน ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า แบบแคป ยกสูง สีดำ มาจอดหน้าร้าน อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายสืบ สภ.บางบ่อ ชื่อ ผู้กองเกษม พูดจาลักษณะข่มขู่ทำให้กลัว พร้อมถามผู้เสียหายครั้งที่แล้วเคยจ่ายเท่าไหร่ เอามาเท่าเดิม
นางทิพภา กาญจนโรจน์ อายุ 48 ปี (แม่) ได้เล่าเหตุการณ์ด้วยความคับแค้นใจ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2567 ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 15.30 น.มีกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวเข้ามาที่ร้าน อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบ สภ.บางบ่อ หัวหน้าทีมชื่อผู้กองเกษม ลงจากรถ ตรงเข้ามาถามสามี รู้ไหมว่า นกกรงหัวจุกเป็นสัตว์ป่าสงวนห้ามเลี้ยง มีอัตราโทษปรับตัวละ 4 หมื่นบาท สามีตนบอกว่ารู้ นกทั้งหมดเลี้ยงไว้ดูเล่น เป็นความสุขของครอบครัว ไม่ได้ขาย ซื้อมาจากฟาร์มไม่ใช่นกป่า มีเอกสารการขออนุญาตครอบครองถูกต้องและกำลังจะขอเพิ่มอีกในส่วนของนกที่เกิดใหม่ เมื่อจะนำให้ดูตำรวจบอกว่าไม่ต้อง แล้วทำท่าทีจะยึดนกไปทั้งหมด พร้อมถามว่าจะยอมจ่ายไหม ครั้งที่แล้วเคยจ่ายเท่าไหร่ ให้จ่ายเท่าเดิม สามีบอกว่าเคยจ่าย 5 พัน ชายคนดังกล่าวจึงบอกให้สามีเอาเงินสดไปจ่ายให้กับเขาที่ห้องทำงานด้านข้าง ซึ่งไม่มีกล้องวงจรปิด พร้อมบอกว่า ห้ามนำเรื่องไปเล่าให้ใครฟัง จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้ตนรู้สึกเหมือนถูกปล้นจากโจรในคราบตำรวจ นอกจากครอบครัวของตนแล้ว ยังมีเพื่อนอีกหลายคนที่ถูกชายกลุ่มนี้กระทำเช่นกัน ดังนั้น จึงอยากร้องผ่านสื่อช่วยทวงความเป็นธรรม หยุดพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ อย่าให้ไปสร้างความเดือดร้อนกับชาวบ้านอีก
นายวิชาญ กาญจนโรจน์ อายุ 29 ปี (ลูกชาย) ได้นำเอกสารการขออนุญาตครอบครองมาให้ผู้สื่อข่าวดู กล่าวว่า นกของตนซื้อมา 2 คู่จากบ้านที่ภาคใต้ ตั้งแต่ปี 2554 ตนและครอบครัวมีความรู้ จึงเลี้ยงและขยายพันธุ์เอง มีไว้ดูเล่น ฟังเสียงอันไพเราะของนกกรงหัวจุกที่ได้ฉายาว่า”นักร้องแห่งพงไพร” เป็นสิ่งผ่อนคลายหลังเลิกงาน ไม่ได้เลี้ยงเพื่อขาย ตนสุดทนกับคนกลุ่มนี้ ทำเป็นครั้งที่สองแล้ว มาโดยไม่มีหมายค้น ไม่มีเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจตัวจริง มาอ้างเป็นตำรวจแต่มีพฤติกรรมเยี่ยงโจร
หลังได้เงินแล้ว สั่งให้เอานกทั้งหมดไปแขวนไว้ในบ้าน ถ้าผ่านมาเห็นจะแวะมาหาอีก จึงอยากฝากผ่านสื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบ่อ ครอบครัวของตน เลี้ยงนกกรงหัวจุก ไว้ดูเล่นเพื่อผ่อนคลาย เป็นความสุขเล็ก ๆ ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ดูแลอย่างดี ไม่ได้ทรมานสัตว์ เลี้ยงไว้เพื่อฟังเสียงร้องอันไพเราะ คนเราชอบไม่เหมือนกัน บางคนเลี้ยงไก่ชน เอามาตีกันได้รับบาดเจ็บถึงตาย แต่ทำไมตำรวจไม่จับ
************************
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ