บุรีรัมย์ – อยู่จนรู้มุมกล้องย่องฉกทองนายจ้าง ตร มึนแต่เพื่อนร่วมงานเห็นโดนรวบ
บุรีรัมย์ อยู่จนรู้มุมกล้องย่องฉกทองนายจ้าง ตร มึนแต่เพื่อนร่วมงานเห็นโดนรวบ
อำเภอโนนดินแดง/ชุดสืบสวนตามรวบทันควัน หนุ่มอดีตคนงานโรงงานน้ำแข็งเข้าไปฉกเอากระเป๋าเงินของเฒ่าแก่ถึงออฟฟิศกลางดึก ตอนแรกตำรวจมึนเพราะภาพวงจรปิดหลายตัวไม่เห็น แต่เพื่อนร่วมงานเห็นหนีไม่รอด เจ้าตัวสารภาพแบบคงความดี”ไม่รู้เอาเงินไปทำไมยังไม่ได้ใช้”ขณะเจ้าของเผยสายมือไวประจำเคยให้อภัยแล้ว
วันที่ 20 ก.ย.67 เมื่อเวลา 03.00 น.คืนที่ผ่านมา พ.ต.ท.สมยงค์ แพงงาม สารวัตร(สอบสวน)สภ.โนนดินแดง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากเจ้าของโรงงานน้ำแข็งแห่งหนึ่ง ว่ากระเป๋าเงินซี่งมีทั้งทองและเงินสดที่อยู่ในออฟฟิศ ได้หายไป
จากนั้นชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ในโรงงานน้ำแข็งกว่า 6 ตัว ปรากฏว่าบริเวณออฟฟิศไม่พบร่องรอยหรือเห็นภาพของคนร้ายแม้แต่คนเดียว มีเพียงพนักงานที่กำลังจะออกไปส่งน้ำแข็ง ชุดสืบสวนยอมรับว่าเป็นงานยากเพราะไม่มีหลักฐานว่าใครเป็นคนเข้าไปในออฟฟิศ
ต่อมามีพนักงานของโรงงานที่กลับมาจากส่งน้ำแข็ง แจ้งกับตำรวจว่า ช่วงเวลาประมาณตีสองกว่า เห็นนายสมคิด หรือน้อย เฉื่อยขุนทด อายุ 42 ปี อดีตพนักงานของโรงงานที่ออกไปเมื่อ 1 เดือน เข้ามาบริเวณนั้น นายน้อยยังบอกว่า”ห้ามบอกใครว่ามาที่นี่”แล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมาชุดสืบสวนได้ตามไปที่บ้านของนายน้อย ที่ ต.ลำนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ นายน้อย เมื่อเห็นตำรวจรับสารภาพทันทีพร้อมมอบกระเป๋าของกลางที่ขโมยไป ซึ่งในกระเป๋ามีเงินสด 2,320 บาท สร้องคอทองคำหนัก 1 บาท โทรศัพท์ 1 เครื่อง และเหรียญหลวงพ่อโสธรเลี่ยมทองอีก 1 องค์ พร้อมยาบ้าอีก 6 เม็ด นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.โนนดินแดง
นายน้อย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าที่ขโมยของไปไม่ได้เอาไปทำอะไร ทั้งเงินทั้งทองอยู่ครบ ยอมรับว่าเสพยาบ้ามาก่อนจะเข้าไปก่อเหตุ 2 เม็ด ขอโทษนายจ้างที่ทำไปเพราะขาดสติ
ด้านนางสาวประถมาภรณ์ เตียงประโคน อายุ 44 ปี เจ้าของโรงน้ำแข็ง เล่าว่านายน้อย เป็นคนงานให้กับโรงงานมานานตั้งสมัยรุ่นแรกๆประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา แต่มีนิสัยชอบลักเล็กขโมยน้อย ให้อภัยมาโดยตลอดเคยเตือนพนักงานแล้วว่าที่โรงงานมีกล้องวงจรปิดใครเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิด นายน้อยเพิ่งออกไปเมื่อประมาณเดือนเศษ ไม่คิดว่าจะย้อนมาขโมยแบบนี้
ทั้งนี้หลังสอบสวนเบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหาลักทรัพย์นายจ้างในเวลากลางคืน โดยจะสอบประวัติอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเคยไปก่อเหตุในลักษณะนี้ที่ไหนอีกหรือไม่/